สุรินทร์-ผุดอาชีพเพาะกล้าไม้ ขายราคาหลักสิบ เพิ่มมูลค่าโดยผสมเชื้อเห็ดลงไป ได้กินตลอดทั้งปี
14 ก.ย.61 – เป็นอาชีพน่าสนใจที่หลายๆ คนมักมองข้ามไปคือ อาชีพเพาะกล้าไม้ขาย ที่บริเวณตลาดริมทางบ้านหนองคู ถนนท่าตูม – รัตนบุรี หมู่ที่ 2 ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ มีสวนขายกล้าไม้นานาพันธุ์ ชื่อว่า “สวนพอเพียง” ซึ่งบริเวณโดยรอบเป็นสวนเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชพันธุ์โดยใช้ธรรมชาติพึ่งธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี และได้แบ่งเป็นแปลงเพาะกล้าไม้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น มะพร้าว ยูคา ยางนา พยอม พยูง สะเดา และกระเจียว เป็นต้น ซึ่งแต่ละวันจะมีลูกค้าโทรมาสั่งให้ไปส่ง ให้จัดหาไว้ให้แล้วมารับ และมีลูกค้าขาจรที่ผ่านมาเห็นแล้วจอดแวะซื้อกลับบ้านเป็นทีละหลายร้อยต้น
ซึ่งปัจจุบันนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ได้รับความสนใจจากผู้คนมากที่สุดคือ ปัญหาโลกร้อน หรือสภาวะเรือนกระจก ซึ่งวิธีการแก้ปัญหา หรือลดความรุนแรงของปัญหานี้ได้ดีที่สุดก็คือ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว หรือการปลูกต้นไม้เพิ่มนั่นเอง เป็นความรู้ตั้งแต่สมัยมัธยมว่า ต้นไม้ช่วยลดโลกร้อนด้วยการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกเข้าไปเพื่อใช้ในการสังเคราะห์แสง โดยตลอดอายุขัยของไม้ยืนต้น 1 ต้น จะสามารถเก็บกักคาร์บอนได้เฉลี่ย 1-1.7 ตันคาร์บอน และยังสามารถดูดซับก๊าซอื่นๆ ที่เป็นพิษต่อร่างกายมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมได้อีก
นายธีรภัทร พันธ์แก้ว อายุ 41 ปีอยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 9 ต.น้ำเขียว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เจ้าของสวนพอเพียง เล่าว่า อาชีพหลักของตนเป็นพนักงานอยู่ประจำที่ว่าการ อ.ท่าตูม ทุกๆ วันตนจะเข้านอนไม่เกิน 2 ทุ่ม และจะตื่นมาเวลา 02.30 น. เพื่อเข้าสวนมาเพาะกล้าไม้ แพ็คเตรียมส่งให้ลูกค้า พอถึงเวลา 07.30 น. ตนก็เดินทางไปทำงานปกติ ส่วนวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์ ตนก็จะเข้ามาทำทั้งวัน และจัดส่งกล้าไม้ที่ลูกค้าโทรมาสั่ง ส่วนใหญ่จะมี ต้นมะพร้าว ยูคา ยางนา พยอม พยูง สะเดา แล้วแต่ลูกค้าจะสั่ง ตนก็จะจัดหามาให้ ส่วนราคาตนตั้งไว้ ต้นมะพร้าว ต้นละ 60 บาท ส่วนต้นอื่นๆ อยู่ที่ 10 บาท แต่ต้นไม้ที่ตนเพาะจะมีสิ่งหนึ่งที่พิเศษไม่เหมือนใครๆ คือ ตนใส่เชื้อเห็นป่าเข้าไปด้วย (เห็ดระโงกและ) ส่วนต้นยูคาลิปตัส จะใส่เชื้อเห็ดผึ้งหวานลงไป ซึ่งตนจะนำเชื้อเห็ดมาปั่นให้ละเอียดแล้วผสมน้ำ นำไปรสต้นกล้าที่อายุได้ประมาณ 1 เดือน เพื่อเวลาลูกค้าเอาต้นไม้ไปปลูกจะได้ทั้ง ต้นไม้ และได้เก็บเห็ดที่โคนต้นอีกด้วย
ซึ่งเห็ดนี้จะออกได้ตลอดทั้งเมื่อมีความชื้นที่พอเหมาะ และไม่มีวันหมด สามารถเก็บนำไปรับประทานได้ตลอดทั้งชีวิต ซึ่งแนวคิดนี้ได้มาจาก นายอดุล ดีอ้อม เป็นหัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักงานพัฒนาที่ดิน จ.อุบลราชธานี ซึ่งบ้านเกิดท่านอยู่ที่ อ.รัตนบุรี ท่านมาปลูกป่าอยู่ที่สวนของท่านกว่า 26 ไร่ ซึ่งท่านได้ให้แนวความคิดมาว่า “ใช่ว่าเพาะต้นไม้ ได้แค่ต้นไม้ปลูก ดังนั้นเราจึงต้องเพิ่มมูลค้า โดยการนำเชื้อเห็ดใส่” ตอนนี้ตนทำมาได้ปีที่ 3 แล้ว
ในปัจจุบัน เป็นยุค 4.0 ตนนำโลกโซเชียลเข้ามาในชีวิตประจำวัน โดยใช้แอพลิเคชั่น ไลน์ และเฟซบุ๊ค เข้ามามีบทบาทมากยิ่งขึ้น โดยการโพสต์ขายในกลุ่มต่างๆ และได้รับการตอบรับที่ดี โดยการสั่งซื้อมาจากต่างจังหวัดทีละหลายร้อยต้น จนตอนนี้ตนไม่สามารถผลิดได้ทันตามความต้องการของลูกค้า
หากท่านใดต้องการสั่งพันธุ์กล้าไม้ สามารถโทรศัพท์มาสั่งได้ที่ คุณธีรภัทร พันธ์แก้ว 062-139-6084.