ข่าวท้องถิ่น

สุรินทร์-รถดับเพลิงกว่า 10 คัน ระดมฉีดบ้านที่ไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก เจ้าของล้มทั้งยืน

สุรินทร์-ลมกระโชกแรง..! รถดับเพลิงกว่า 10 คัน ระดมฉีดบ้านที่ไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างหนัก เจ้าของกลับมาเจอสภาพบ้าน..ล้มทั้งยืน

15 ธ.ค.61 เวลาประมาณ 13.10 น. ศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธร สภ.ศีขรภูมิอำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้าน ที่บ้านน้อยหมู่ 13 ตำบลช่างปี่ อำเภอศีขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ ว่าไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงจากนั้นจึงได้แจ้งให้ พ.ต.ต.วิทวัส แก้วเหลา ร้อยเวรสอบสวน ส.ภ.ศีขรภูมิ เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุและประสานรถดับเพลิงจาก ท.ต.ศีขรภูมิ และอบต.ใกล้เคียง เพื่อช่วยระงับเหตุ

เจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านประชาชน ยืนดูกันมากมาย ลักษณะเป็นบ้านสองชั้นชั้นบนเป็นไม้ส่วนชั้นล่างเป็นปูนและกระจก พบกลุ่มไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง รถดับเพลิงจากเทศบาล และ อบต.กว่า 20 คันกำลังระดมกำลังฉีดน้ำระงับเหตุไม่ให้ลุกลามไปที่อื่น

จากการสอบถาม นายจิรวัฒน์ สำนักนิตย์ อายุ 47 ปี ผู้ใหญ่บ้านซึ่งอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เล่าว่า ซึ่งตอนนั้นผู้ใหญ่บ้านกำลังประชุมกับลูกบ้าน อยู่ที่ศาลาหมู่บ้านใกล้กับบ้านหลังที่เกิดเหตุ ห่างกันประมาณ 60 เมตร พอดีเห็น ควันไฟกำลังพวยพุ่งขึ้นมาตนเองจึงรีบวิ่งมาดูจึงได้รู้ว่า มีไฟไหม้บ้าน จากนั้นจึงได้แจ้ง ไปยังศูนย์ อบต.ช่างปี่ และได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่ให้ได้รับทราบ

ภายในบริเวณบ้านหลังที่เกิดเหตุ จะปลูกบ้านอยู่ 2 หลังอยู่ในเนื้อที่รอบรั้วเดียวกัน หลังหนึ่งเป็นบ้านของแม่ ชื่อนางทองพูน ศรีละออ อายุ 72 ปี ส่วนบ้านหลังที่เกิดเหตุไฟไหม้เป็นบ้านของนางนิภา มุมทอง หรือ ( นางนิภา บูร์สม่า ) นามสกุลของสามีซึ่งเป็นชาวต่างชาติ นางนิภา อายุ 52 ปี เลขที่ 197 ม.13 ต.ช่างปี่ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์

ในตอนที่เกิดเหตุ ช่วงนั้นเวลาประมาณ 13.00 น คุณยายทองพูนศรี ละออ อายุ 72 ปีซึ่งเป็นแม่ของนางนิภา มุมทอง นั่งเล่นอยู่กับ หลาน ส่วนนางนิภาเจ้าของบ้านออกไปทำธุระข้างนอก ตอนนั้น คุณยายทองพูนเล่าว่าตนเองกำลังจะตำหมากเคี้ยว จู่ๆก็ได้ยินเสียงดังเปาะแปะ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร จนลูกหลานที่นั่งอยู่ใกล้ตะโกนบอกว่ายายไฟไหม้พอตนเองหันมองไปดูที่บ้านลูกสาวมองไปที่ชั้นสองของบ้านเท่านั้นแหละได้เห็นควัญไฟกำลังเริ่มพวยพุ่งขึ้น

ด้วยความตกใจ ยายทิ้งตะกร้าหมากวิ่งตะโกนให้เพื่อนบ้านได้ยินเพื่อที่จะได้มาช่วยกันดับ ในตอนนั้นยายทำอะไรไม่ถูกและไฟกำลังโหมลุกไหม้แรงขึ้นๆ ประกอบกับมีลมด้วยไม่นานรถดับเพลิงก็มาถึงที่เกิดเหตุพร้อมฉีดสกัดทันทีเป็นหน่วยดับเพลิงของ อบต.ช่างปี่ที่มาถึงก่อนและฉีดสกัดรอหน่วยข้างเคียงมาช่วยรถดับเพลิงที่มาช่วยทั้งหมด 10 คัน

มี อบต.ช่างปี่ อบต.จารพัต อบต.เทศบาลศีขรภูมิ อบต.ระแงง อบต.แตบอบต.กุดหวาย อบต.ตรมไพร อบต.ยาง อบต.ปราสาททอง อำเภอเขวาสินรินทร์และอบต.ตากูก เขวาสินรินทร์ ใช้เวลา ฉีดน้ำดับไฟ ไปประมาณ 20 นาทีไฟจึงได้หยุดลง แต่ก็ยังฉีดเลี้ยงไว้รวมแล้วเวลาน่าจะประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อให้ไฟมอดดับสนิท

หลังจากที่ฉีดน้ำ ดับไฟสนิทแล้วเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปทำการดูความเสียหายแทบทั้งหลัง ชั้นบนที่เป็นไม้ถูกไฟไหม้หมดรวมทั้งพื้นบ้านก็ถูกไฟไหม้ข้าวของเสียหายหมดจะเหลือบางชิ้นที่อยู่ขั้นล่างที่ยังไม่ถูกไฟไหม้แต่ดูความเสียหายน่าจะหมดเช่นตู้เสื้อผ้าถูกน้ำเสียหายฟ่าเพดานหล่นกะจัดกะจายจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้นำเชือกกั้นไม่ให้คนเข้าไปในบริเวณนั้น

ต่อมาเมื่อเจ้าของบ้าน ที่ชื่อนางนิภา มุมทอง กลับมาจากไปทำธุระ ข้างนอกมาเห็นสภาพบ้านของตนเองเป็นลมล้มทั้งยืนจนชาวบ้านที่ยืนอยู่ต้องช่วยกันพยุงพร้อมทั้งนำยาหม่องยาดม มาให้ดม และชาวบ้านใกล้เรือนเคียง ก็ได้เข้ามาปลอบขวัญให้กำลังใจ และนำฝ้ายมาผูกแขนให้ขวัญมาอยู่กับเนื้อกับตัว

โดยมีนายกสุธี บูรณ์เจริญ นายกอบต.ช่างปี่ นางจิดาภา ชาญประโคน กำนันตำบลช่างปี่ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจ กับเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุด้วย พร้อมทั้ง นายชาญศักดิ์ สำนักนิตย์ ปลัดฝ่ายศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอศีขรภูมิ

และหน่วยทหารที่ดูแลพื้นที่จุด อำเภอ ศีขรภูมิ ร้อยตรี พัฒน์สกล สุภาวหา ชุดร้อย.รส.ร.23 พัน.3 และกองทุนตำบลช่างปีได้มอบเงินเพื่อปลอบขวัญและกำลังใจให้จำนวน 2,000 บาท ส่วนความเสียหายคร่าวๆ เบื้องต้นน่าจะประมาณ 3 ล้านบาท และยังมีบ้านข้างเคียง อีก 2 หลัง เสียหายเป็นบางส่วน.

ภาพ – ข่าว / ปวริศร์ วงษา

Leave a Comment