สุขภาพ

สุรินทร์-โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ เฝ้าระวังภาวะเลือดจางเด็กนักเรียน

สุรินทร์-โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ เฝ้าระวังภาวะเลือดจางเด็กนักเรียน

เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพหนองอียอ เดินทางไปยังโรงเรียนบ้านอาเลา ต.หนองอียอ อ.สนม จ.สุรินทร์ เพื่อเจาะเลือดและแจกวิตามินธาตุเหล็ก เฝ้าระวังภาวะเลือดจางในนักเรียนชั้น ป.1 ของโรงเรียนบ้านอาเลา

โลหิตจางในเด็ก พ่อแม่ผู้ปกครองทราบหรือไม่ โรคนี้ไม่เพียงแต่จะพบได้มากในผู้ใหญ่เท่านั้น แต่ในเด็กก็มีโอกาสที่จะพบการป่วยด้วยโรคโลหิตจางได้เหมือนกัน ซึ่งสังเกตได้จากอาการซีดของลูกและอาการอื่นๆ ร่วมด้วยนั่นเอง

โดยวันนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความเข้าใจ กับภาวะซีด หรือโรคโลหิตจางในเด็กกันมากขึ้น เพื่อจะได้เฝ้าระวังและป้องกันได้อย่างถูกวิธีมากขึ้น โดยมีข้อมูลดังต่อไปนี้ครับ

โลหิตจางในเด็ก เกิดจากอะไร

โรคโลหิตจางที่เกิดกับเด็ก มักจะมีสาเหตุมาจากการขาดธาตุเหล็ก หรือแร่ธาตุอื่นๆ ที่มีความเกี่ยวข้อง คือ วิตามินบี 12 และโฟเลต ซึ่งก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพและการเจริญเติบโตของลูกน้อยเป็นอย่างมาก ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องคอยสังเกตอยู่เสมอ ว่าลูกมีภาวะที่เสี่ยงต่อโลหิตจางหรือไม่ เพื่อจะได้ทำการป้องกันและพาไปรักษาได้ทันเวลานั่นเอง

อาการของโรคเป็นอย่างไร

จะรู้ได้อย่างไร ว่าลูกอยู่ในภาวะที่เสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคโลหิตจางหรือไม่ สามารถสังเกตได้จากอาการผิดปกติดังนี้

ผิวดูขาวซีด ไม่มีเลือดฝาดเหมือนที่ผิวเด็กทั่วไปควรจะมี มีอาการอ่อนเพลีย กินอาหารหรือกินนมได้น้อยลง เปลือกตาล่างและริมฝีปาก จะมีอาการซีดจนเห็นได้ชัด

ความอันตรายของโรค

ต้องบอกเลยว่าโรคนี้มีความอันตราย และส่งผลต่อการเติบโตและพัฒนาการของลูกเป็นอย่างมาก โดยอันตรายจากภาวะโลหิตจางที่มักจะพบในเด็กก็มีดังนี้

1.สมองทำงานช้าลง เนื่องจากภาวะเลือดจาง จะทำให้มีเม็ดเลือดแดงน้อยกว่าปกติ เป็นผลให้ไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างเพียงพอ ซึ่งเมื่อสมองได้รับออกซิเจนน้อยลง ก็จะเกิดการทำงานที่ช้าลง และทำให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองหรือการเรียนรู้ที่ด้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกันได้ นอกจากนี้ก็อาจมีอาการเฉื่อยชาและไม่กระฉับกระเฉงอีกด้วย

2.ลูกเติบโตช้า เมื่อลูกเป็นโรคโลหิตจาง มักจะทำให้ลูกเกิดอาการเบื่ออาหารและกินอาหารได้น้อยลง เป็นผลให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายน้อยเกินไป จนเกิดภาวะขาดอาหารและเติบโตช้าได้ในที่สุด อีกทั้งยังทำให้สุขภาพร่างกายของลูกอ่อนแอ เนื่องจากภูมิคุ้มกันลดต่ำลง จึงเจ็บป่วยได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งก็ส่งผลเสียต่อร่างกายและจิตใจของลูกไม่น้อยเลยทีเดียว

3.ตัวเตี้ยกว่าเด็กวัยเดียวกัน พบว่าเด็กที่เป็นโรคโลหิตจางส่วนใหญ่ มักจะมีปัญหาตัวเตี้ยกว่าเด็กในวัยเดียวกัน นั่นก็เพราะว่า ขาดธาตุเหล็กไปช่วยในการเจริญเติบโต จึงทำให้กระดูกไม่แข็งแรง เปราะบาง และแตกหักได้ง่าย ซึ่งก็ส่งผลเสียในระยะยาวกันเลยทีเดียว

วิธีป้องกันไม่ให้ลูกเป็นโรคโลหิตจาง

การป้องกันไม่ให้ลูกป่วยด้วยโรคโลหิตจาง สามารถทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

ให้ลูกทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน โดยเฉพาะสารอาหารที่มีความเกี่ยวข้องกับการสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยลดโอกาสการเป็นโรคโลหิตจางได้

เน้นทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ตับหมู ผักใบเขียว นม เลือดหมู เครื่องในสัตว์ เนื้อแดง และไข่แดง เป็นต้น โดยหากลูกยังมีอายุต่ำกว่า 6 เดือน ซึ่งกินนมแม่เพียงอย่างเดียว คุณแม่ก็สามารถเสริมธาตุเหล็กให้กับลูกได้ ด้วยการทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงเหล่านี้ เพื่อส่งผ่านสารอาหารไปทางน้ำนมได้เหมือนกัน

โรคโลหิตจางที่เกิดกับเด็กนั้น เป็นอีกหนึ่งโรคที่พ่อแม่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกไม่น้อยเลย ดังนั้นมาปกป้องลูกน้อยของคุณให้ห่างไกลจากภาวะโลหิตจางกันดีกว่า และควรเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพื่อจะได้แก้ไขได้ทันหากลูกอยู่ในภาวะเสี่ยงนั่นเอง

ข่าวสนมนิวส์

ข่าวสนมนิวส์

Leave a Comment