สุรินทร์-พาชิมมะขามเทศ ผลไม้พื้นบ้านอีสานดั้งเดิม ของแซ่บที่หายาก สรรพคุณทางยาเพียบ
มะขามเทศ เป็นผลไม้ท้องถิ่น โดยเฉพาะในภาคอีสานจะเห็นปลูกกันเยอะ มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมอย่างมาก และไม่ค่อยมีปัญหาเกี่ยวกับโรคหรือแมลงศัตรูแต่อย่างใด เมื่อก่อนนั้นมะขามเทศที่อยู่ในภาคอีสานจะมีมาก เกิดขึ้นเอง ส่วนใหญ่จะเกิดตามคูห้วยหนองน้ำ
เป็นผลไม้ที่มีรูปทรงฝักโค้งเป็นวงกลม ให้รสชาติออกหวานมัน ผสมรสฝาดนิด ๆ ส่วนลำต้นจะมีหนาม บางจังหวัดปลูกขายกันอยู่ประมาณกิโลกรัมละ 30-50 บาท
แต่ในอีสานที่จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นผลไม้ที่ไม่ได้ปลูกขายเพราะเกิดขึ้นเองธรรมชาติ ตามคูห้วยบ้าง ตามข้างทางบ้าง ไม่ขายไม่หวง ใครอยากทานก็เก็บทานได้เลย เช่นเดียวกับ นายโป่ง แป้นเงิน อายุ 60 ปี ชาวบ้านสำโรง หมู่ที่ 8 ต.หนองอียอ อ.สนม จ.สุรินทร์
กำลังเก็บมะขามเทศ โดยใช้ไม้สอยมะขามเทศให้คนในหมู่บ้านทาน มีทั้งลูกสุกที่สามารถทานได้เลย ลูกแก่ใกล้สุก และลูกอ่อน ใช้แทนเป็นผักจิ้มน้ำพริกอื่นๆได้ เมื่อนายโป่ง แป้นเงิน สอยมะขามเทศเสร็จก็เก็บใส่ถุงนำไปให้คนในชุมชนทาน ซึ่งชุมชนบ้านสำโรง หมู่ที่8 จะอยู่แบบพี่น้อง สามัคคีกัน มีอะไรก็เรียกกันทาน นี่แหละวิถีชีวิตคนอีสานดั้งเดิม
หลังจากเก็บมาให้คนในชุมชนหมู่บ้านแล้ว คนในชุมชนก็จัดเตรียมใส่จานล้างมะขามเทศให้เรียบร้อย แยกผลสุกและดิบออกจากกัน และตำน้ำพริกกะปิจิ้มกับมะขามเทศทานกัน บางคนก็ทานกับข้าวด้วยเลย ลูกสุกนั้นจะทานได้เลยไม่ต้องจิ้มหรือใครอยากเพิ่มรสชาติก็จิ้ม ส่วนลูกที่แก่จะปลอกเปลือกออกจิ้มกับน้ำพริกกะปิ หรือลูกอ่อนจะทานทั้งเปลือก ถ้าให้อร่อยต้องทานกับเมี่ยง รับรองแซ่บหลาย
สำหรับประโยชน์ของมะขามเทศนั้นมีมากมาย เพราะประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่มีประโยชน์หลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก โปรตีน เส้นใย เป็นต้น และยังถือว่ามะขามเทศนั้นเป็นสมุนไพรไทยอีกชนิดหนึ่งด้วย เพราะคนโบราณนิยมนำมาใช้รักษาโรคปากนกกระจอกเทศนั่นเอง และยังช่วยบรรเทาอาการปวดฟันได้อีกด้วย
ประโยชน์ของมะขามเทศ
- มะขามเทศ ประโยชน์ของมะขามเทศมีวิตามินเอ ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องการมองเห็น
- มะขามเทศมีวิตามินซีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในเรื่องการบำรุงผิวและเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ
- มะขามเทศมีวิตามินอีสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการชะลอวัย
- มะขามเทศมีวิตามินบี 1 ซึ่งช่วยในการบำรุงประสาทและสมอง
- มะขามเทศมีวิตามินบี 2 ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงผิวพรรณ เล็บ และเส้นผม
- มะขามเทศมีวิตามินบี 3 (ไนอะซิน) ซึ่งมีส่วนช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล
- มะขามเทศเป็นผลไม้ที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกและฟัน
- มะขามเทศมีฟอสฟอรัส ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
- มะขามเทศมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนเพลียของร่างกาย
- สามารถนำมาทำเป็นสมุนไพรพอกหน้าได้อีกด้วย ด้วยการใช้ฝักมะขามเทศที่แก่จัดแล้ว นำมาโขลกเอาแต่น้ำมะขามเทศแล้วนำมาผสมกับน้ำมะนาวและไข่ขาว คนให้เข้ากันจนเป็นครีมเหนียวได้ที่ แล้วนำมาพอกหน้า
- มะขามเทศสามารถนำมาประกอบเป็นอาหารได้ เช่น แกงส้ม เป็นต้น
- ดอกและใบอ่อนของมะขามเทศสามารถนำมารับประทานเป็นอาหารได้
- มะขามเทศสามารถนำมาใช้ทำยาย้อมผมหรือยาสระผมได้
- ใช้นำมาทำเป็นยาย้อมผ้า แห อวน จากน้ำฝาดสีดำของมะขามเทศ
- เนื้อไม้ของต้นมะขามเทศสามารถนำมาใช้ทำเป็นเขียงที่มีคุณภาพสูงได้ เพราะเนื้อไม้จะค่อนข้างเหนียวทนทาน
- เนื้อไม้ที่นำมาต้มกับน้ำนำมาใช้กับสตรีหลังคลอด
- น้ำที่ต้มแล้วนำมาใช้อาบหรืออบไอน้ำได้
- ในประเทศอินเดียนิยมนำเมล็ดมาป่นให้ละเอียดแล้วต้มกับผ้า จะทำให้ผ้าแข็งเหมือนกับการลงแป้ง
- มีส่วนช่วยในการรักษาโรคโลหิตจาง
- ใช้นำมาปรุงเป็นยาแก้ไอได้
- เนื้อไม้เมื่อนำมาต้มผสมกับหัวหอมใช้โกรกศีรษะเด็กในยามเช้ามืด จะช่วยแก้หวัดจมูกได้
- ช่วยในการขับเสมหะในลำไส้
- ช่วยในการสมานแผล ห้ามเลือด ด้วยการนำเปลือกมาต้มกับน้ำ เอาน้ำฝาดมาใช้กับบาดแผล
- ช่วยรักษาโรคปากเปื่อยหรือโรคปากนกกระจอกเทศ ด้วยการนำเปลือกต้นมะขามเทศโดยเอาเปลือกชั้นนอกออก เหลือแต่เปลือกชั้นในประมาณ 15 กรัม เกลือป่นอีก 1 ช้อนชา แล้วนำมาต้มกับน้ำ กะปริมาณพอท่วมยาเล็กน้อยจนน้ำเดือด รอจนน้ำอุ่นแล้วนำมาอมหลังจากแปรงฟันทุกครั้งจะทำให้แผลในปากค่อย ๆ บรรเทาทุเลาลงได้
- ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน โดยใช้เปลือกต้มกับน้ำรวมกับเปลือกข่อยและเกลือแกง แล้วนำมาอมแก้ปวดฟัน
- เปลือกต้นมะขามเทศก็ช่วยป้องกันโรคฟันผุได้
- มะขามเทศช่วยในการขับถ่ายและช่วยลดปัญหาของอาการท้องผูกอีกด้วย เพราะมีเส้นใยในปริมาณมาก
- เมล็ดแก่ของมะขามเทศ เมื่อนำมาคั่วแล้วกะเทาะเปลือก (ประมาณ 30 เม็ด) นำไปแช่น้ำเกลืออ่อน แล้วนำมารับประทานเป็นยาถ่ายพยาธิไส้เดือนในท้องเด็กได้ด้วย ส่วนเปลือกนอกนั้นก็นำมากินแก้ท้องร่วงและแก้อาเจียนได้อีกเช่นกัน
- ช่วยรักษาโรคบิด
- เปลือกของต้นที่นำมาต้มกับน้ำสามารถนำมาปรุงเป็นยาแก้ท้องร่วงได้
ภาพ/ข่าว สมศักดิ์ ข่าวสนมนิวส์