ข่าวท้องถิ่น

เปิดใจญาติ และ2สามีภรรยา พบร่างอดีตครู (คลิป)

สุรินทร์-เปิดใจญาติ และ2สามีภรรยา พบร่างอดีตครู ป่วยอัลไซเมอร์ หลังหายออกจากบ้านไปกว่า 23 วัน โทร 103 สาย กว่าจะติด เผยบอกว่า ยายถ้ายายอยากกลับบ้านให้หนูโทรติดนะ จึงโทรติด

วันนี้ (9 มี.ค.62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  หลังจากสื่อหลายสำนักไปลงประกาศตามหาคนหาย ชื่อนางอุไรภรณ์ ศรีศรยุทธ อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2/1 หมู่ที่ 5 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เป็นอดีตครูสอนภาษาอังกฤษ ที่  ร.ร.รัตนบุรี บรรจุและเกษียณอายุราชการ ที่ ร.ร.รัตนบุรี  ไม่เคยย้ายไปไหน ซึ่งป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่คืนวันที่ 14 ก.พ. 62 ช่วงเวลาประมาณ 23.00 น. โดยลักษณะเสื้อผ้าก่อนหายออกจากบ้านไป สวมเสื้อโปโลสีขาว นุ่งผ้าถุง ไม่สวมรองเท้า

ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ สร.5 และหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ จึงร่วมกันออกค้นหา โดยเริ่มจากเบาะแสของชาวบ้านที่พบเห็นนางอุไรภรณ์ ผู้สูญหาย เดินอยู่บริเวณถนนแถวอ่างเก็บน้ำบ้านผือ ทางไปบ้านสร้างบก ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี   ในเวลาประมาณ 23.00 น. คืนวันที่หายตัวไป และอีกจุดหนึ่งคือที่บริเวณ บ้านเป้าน้อย หมู่ที่ 10 อ.สนม ซึ่งห่างจากบ้านที่หายตัวไปประมาณ 10 กม. โดยแม่ค้าที่พบเห็นบอกว่า พบเห็นบุคคลตามภาพที่ในตอนเที่ยงของวันที่ 15 ก.พ.

ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 มี.ค.62 เวลา 10.30 น. ได้มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งประมาณ 4 คน ออกหาของป่าบริเวณป่าดงหินล้ม บ้านสร้างบก ต.หนองบัวบาน อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ และได้กลิ่นเหม็นคลุ้งโชยมา จึงได้เดินเข้าไปดูบริเวณที่มีกลิ่น จึงได้พบเห็นร่างอันไร้วิญญาณลักษณะเป็นหญิง 1 ราย จึงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ-เจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าถึงจุดเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตมีรูปพรรณสัณฐานคล้าย นางอุไรภรณ์ ศรีศรยุทธ อายุ 65 ปี อดีตครูสอนภาษาอังกฤษ ที่ ร.ร.รัตนบุรี ซึ่งป่วยเป็นอัลไซเมอร์ ที่ได้แจ้งหายไว้ เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 62 เวลาประมาณ 23.00 น. ที่ผ่านมา จึงได้ติดต่อบุตรสาวของนางอุไรภรณ์ ศรีศรยุทธ เข้ามาที่เกิดเหตุ พบหลักฐานเป็นแหวนที่นางอุไรภรณ์ ใส่อยู่ที่นิ้วซ้าย ซึ่งได้รับการยืนยันจากบุตรสาวว่า เป็น นางอุไรภรณ์ ผู้เป็นแม่ที่ได้แจ้งหายไว้จริงๆ ซึ่งป่าดงหินล้มนี้ มีเขตรอยต่อด้วยกันอยู่ 3 อำเภอ มี อ.รัตนบุรี อ.สนม และ อ.ท่าตูม

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้าน บรรยากาศบ้านนางอุไรภรณ์ ศรีศรยุทธ อายุ 65 ปี หมู่ที่ 5 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

นางสุพัตรา พรหมทอง (ญาติ) เล่าว่า มีชาวบ้านเข้าไปแหย่ไข่มดแดง หลังวัดป่าบ้านสร้างบก พบศพผู้หญิงนอนเสียชีวิตบริเวณป่าโนนแดง ลักษณะคล้ายนางอุไรภรณ์ ผู้สูญหาย จึงได้โทรศัพท์มาแจ้งตนให้เข้าไปตรวจสอบ ตนและลูกสาว-ลูกชายของนางอุไรภรณ์ จึงพากันเข้าไปที่เกิดเหตุพบศพหญิงนอนเสียชีวิตเลยเอาไม้เขี่ยดูที่นิ้ว

ปรากฏว่าพบแหวนพลอยอยู่ที่นิ้วขวา ส่วนข้างซ้ายแหวนได้หายไป จึงแน่ใจว่าใช่นางอุไรภรณ์ ศรีศรยุทธ จริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงวันที่ 14 ก.พ. 62 คืนวันที่ นางอุไรภรณ์ ได้หายออกจากบ้าน ทางเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยลุยลงพื้นที่ช่วยกันสแกนหา นางอุไรภรณ์ ทั้งวันทั้งคืน แต่ก็ไม่พบ  จนถึงวันที่ 18 ก.พ.62 ตนจึงเข้าไปหาร่างทรง ดูดวง ทำทุกอย่างทางไสยศาสตร์ ค้นหาทุกวัน ทราบข่าวว่าพบที่ไหน ตนก็เข้าไปตามหาบริเวณนั้น ซึ่งได้ทีมกู้ภัยช่วยออกตามหามาโดยตลอด

จนกระทั่งต่อมาวันที่ 21 ก.พ.62 ได้ออกปูพรมในป่าแห่งนี้อีกรอบก็ไม่พบ ตนเชื่อว่าอาจเกิดจากผีบังตาหรือยังไง (ความเชื่อส่วนตัว) ซึ่งการค้นหาดังกล่าวมีคนสะดุดล้มหลายราย แต่มองไม่เห็นว่าสะดุดอะไร ตนก็ยืนยันได้ว่าเจ้าหน้าที่และชาวบ้านอาสาได้ช่วยกันสแกนพื้นที่ค้นหาทุกตารางนิ้วแล้ว

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปหาคนที่พบศพคนแรกโดยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพฮุก31 ได้พาไปยังบ้านผือ เลขที่ 14/1 หมู่14 ต.รัตนบุรี อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ 2สามีภรรยาที่เจอศพ นายสมเกียรติ โสนรินทร์ อายุ 34 ปี น.ส.นันธิดา ไอบ่อแตน อายุ 33 ปี เล่าเปิดใจตอนไปพบศพให้ฟังว่า พวกตนไปหาแหย่ไข่มดแดง 4 คน

ซึ่งพ่อแม่ก็ไปด้วย ที่ป่าโนนแดง พอหาได้สักพักก็ได้กลิ่นเหม็นแต่ก็ไม่พูดอะไร เพราะเวลาเข้าป่าเขาถือกันได้กลิ่นอะไรไม่ให้ทัก แต่สามีเลยทักขึ้นเหม็นกลิ่นอะไร จากนั้นกลิ่นก็โชยขึ้นมา ส่วนคุณ นันธิดา (ภรรยา) ก็บอกว่า ไม่กลิ่นหมาก็กลิ่นคน ส่วนพ่อเลยพูดขึ้นออกมาว่า ไม่ใช่คนหายที่เขาตามหาหรอ ส่วนสามีนั้นเป็นคนขี่กลัว ว่าจะกลับเข้าไปหาพ่อ พอหันไปก็มองเห็นขาเลยพูดออกมาว่า เจอแล้วๆ พร้อมกับชี้ไปยังศพแล้ววิ่งหนีด้วยความกลัว

ส่วนคุณ นันธิดา (ภรรยา) ก็มองไปตามที่สามีชี้จึงเห็นดำๆ นึกว่าเป็นไม้ที่เขาเผาและเห็นผ้าด้วยตอนแรกนึกว่าเป็นผ้าขาวม้า และตะโกนบอกพ่อว่าผ้าขาวม้าๆ พร้อมกับวิ่งหนีตามสามี แล้วถามสามีว่าอะไร สามีบอกว่า คนๆ เห็นขา แต่ไม่รู้ว่าชายหรือผู้หญิง ตอนได้กลิ่นครั้งแรกนั้นจะมีกลิ่นแสบจมูก ว่าจะโทรบอกตำรวจ แต่พ่อบอกว่าอย่าพึ่งตกใจ

เผื่อที่เราเห็นนั้นอาจไม่ใช่คนอาจจะเป็นเศษศพสุนัข เดียวพ่อเข้าไปดูเอง พอเข้าไปดูก็มาบอกลูกสาว (นันธิดา) ไม่ใช่ผ้าขาวม้านะ เป็นผ้าถุง เป็นผู้หญิง ลูกสาว (นันธิดา) จึงถามพ่อว่า ทำอย่างไรพ่อ พ่อก็บอกว่าให้ลงไปโทรศัพท์ พ่อจะเฝ้าอยู่ตรงนี้

ลูกสาวบอกว่าลงมาก็ลงมาด้วยกันเพราะมีแต่คนกลัว หลังจากนั้นก็โทรศัพท์ โทรหาใครก็ไม่ติดเพราะบริเวณนั้นไม่ค่อยมีสัญญาณ คุณนันธิดา เลยบ่นพูดออกมาว่า ยายถ้ายายอยากกลับบ้านให้หนูโทรติดนะ ก็โทรติดจริงๆ โทร103สายมีติดสายเดียว คือแม่ยาย แม่เลยแจ้งผู้ใหญ่บ้านประสานงานหน่วยงานเจ้าหน้าที่ขึ้นไปดู

ภาพ/ข่าว สมศักดิ์ ข่าวสนมนิวส์

ข่าวสนมนิวส์

Leave a Comment