บทความ

8 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ มาดูว่าคุณอยู่ในข้อใดบ้าง

จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) ประเทศไทยมีสถิติการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย และเป็นอันดับ 2 ของโลก ด้วยตัวเลขอัตราการเสียชีวิต 36.2 ต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุมักเกิดจากพฤติกรรมการขับขี่รถบนท้องถนน

วันนี้ ข่าวสนมนิวส์ มี 8 พฤติกรรมเสี่ยงที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจาก InterRisk Asia (Thailand) มาฝากกันครับ

1.ไม่ชอบเปิดไฟเลี้ยว
สาเหตุที่เกิดการชนท้ายบ่อยครั้งของทั้งรถมอเตอร์ไซค์และรถยนต์มักมาจากการไม่เปิดไฟเลี้ยวเพื่อบอกให้ผู้ร่วมทางทราบ หรือเตรียมตัวเบรค ซึ่งตามกฎจราจรก็ระบุไว้อยู่แล้วว่าต้องเปิดไฟเลี้ยวเมื่อจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนช่องทางก่อน 30 เมตร

2.ตัดสินใจช้าชอบเปลี่ยนเลนกระทันหัน
หลายครั้งที่ผู้ขับขี่มีการตัดสินใจช้า ทำให้ต้องขับรถเปลี่ยนเลนอย่างกะทันหัน ซึ่งส่งผลให้รถคันอื่นๆ ชะลอรถไม่ทันจนทำให้เกิดอุบัติขึ้นในที่สุด ดังนั้นผู้ขับขี่จึงควรทำการศึกษาเส้นทางก่อนการเดินทาง ชะลอความเร็ว และตัดสินใจให้ไวขึ้น รวมถึงควรฝึกฝนและทดสอบความไวในการตอบสนองของตนเอง เพื่อให้มีการตัดสินใจที่เหมาะสมขึ้น

3.ไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
เครื่องหมายจราจรถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้ถนนมีการปฏิบัติตนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แต่ผู้ขับขี่ก็มักจะฝ่าฝืนกันอยู่บ่อยๆ เช่น ห้ามยูเทิร์นหรือห้ามแซง เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้เกิดการเฉี่ยวชนกับผู้ร่วมทางคันอื่นๆ อยู่เป็นประจำไม่ปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร

4.ขับรถเร็วเป็นประจำ
เป็นที่น่าแปลกใจเมื่อพบว่าคนไทยมีพฤติกรรมการขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดอยู่เสมอ ซึ่งเป็นการสร้างความเสี่ยงให้กับทั้งตนเองและผู้ร่วมทาง ทำให้เสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน รวมไปถึงใบสั่งข้อหาขับรถเร็วเกินกำหนด พร้อมกับภาพถ่ายรถของท่านที่จะถูกส่งมาถึงมืออย่างรวดเร็ว

5.เข้าแยกไม่ชะลอ
เป็นกรณีที่พบได้บ่อยครั้งบนถนนนอกเมืองหรือชนบทที่มีรถสัญจรน้อย แต่มักใช้ความเร็วสูงในการขับขี่ เมื่อถึงทางแยกมักไม่ชะลอเพื่อดูรถที่มาจากทางอื่นเพราะคิดว่าถนนโล่ง ซึ่งอุบัติเหตุแต่ละครั้งจะมีความรุนแรงสูงหรือมีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้

6.ดื่มแล้วขับ
อย่างที่ทราบกันดีว่าการดื่มแอลกอฮอล์จะทำให้สมรรถภาพในการขับขี่ลดลง ปฏิกิริยาการตอบสนองของผู้ดื่มจะช้าลงอย่างมาก หากขับรถในขณะที่ร่างกายไม่พร้อมอาจทำให้เรากลายเป็นฆาตกรได้ ดังนั้นหลังจากสังสรรค์ที่มีการดื่มแอลกอฮอล์ก็ควรหลีกเลี่ยงการขับรถและนั่งแท็กซี่กลับบ้านแทน

7.ชอบขับแทรก แซง ปาด
พฤติกรรมเหล่านี้มักมาจากการกระทำของคนเห็นแก่ตัว ซึ่งพบมากในเมืองใหญ่ที่มีการจราจรติดขัดอย่างเช่น กรุงเทพฯ เป็นต้น โดยผู้ขับขี่จะขับรถแทรก แซง และปาดรถคันอื่นเพื่อทำให้ตนเองไปได้ไวขึ้น ซึ่งนอกจากจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายแล้วยังอาจทำให้เกิดการทะเลาะวิวาทตามมาอีกด้วย

6.คุยโทรศัพท์หรือเล่นโซเชียลขณะขับรถ
ปัจจุบันมีกฎหมายระบุบทลงโทษที่ชัดเจนเรื่องการคุยโทรศัพท์และเล่นโซเชียลมีเดียขณะขับรถ แต่ก็ยังคงมีผู้ขับขี่หลายท่านที่ฝ่าฝืน ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ผู้ขับขี่ต้องละสายตาจากถนนและเกิดอุบัติเหตุขึ้น จนทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องมารับเคราะห์จากความประมาทนี้

ที่มา : www.interriskthai.co.th

ข่าวสนมนิวส์

Leave a Comment