ข่าวท้องถิ่น

ยายวัย 58 ปี โดนชิงทรัพย์ตีหัวจนสลบโจรนึกว่าตาย เลยรอดตายหวุดหวิด (มีคลิป)

ยายวัย 58 ปี โดนชิงทรัพย์ตีหัวจนสลบโจรนึกว่าตาย เลยรอดตายหวุดหวิด โทรแจ้งลูกสาวช่วย บ้านหนองละคร ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์

วันนี้ 5 เม.ย.61 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า เมื่อวันที่ 4 เม.ย.61 ที่ผ่านมา มีเหตุทำร้ายร่างกายเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ ที่บ้านหนองละคร ผู้เสียหายคือ นางทองมี สุขเสริม อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 88 หมู่ที่6 ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ ถูกคนร้ายตีที่ท้ายทอยและศีรษะจนสลบ ญาติโทร1669 นำส่งโรงพยาบาลสนม เย็บ 5 เข็ม ต้องนอนโรงพยาบาล 1 คืน เพื่อรักษาตัว คนร้ายได้เงินไป 400 บาท และวันที่ 5 เม.ย.61 นางทองมี สุขเสริม คุณหมอก็ให้ออกจากโรงพยาบาลไปรักษาตัวที่บ้าน ผู้สื่อข่าวจึงรุดไปที่บ้านของ นางทองมี สุขเสริม เพื่อทราบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะเป็นเหตุการณ์กลางวันเสกๆ และเป็นผู้สูงวัยด้วย

 

ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้าน นางทองมี สุขเสริม บ้านหนองละคร เลขที่ 88 หมู่ที่6 ต.แคน อ.สนม จ.สุรินทร์ พบชาวบ้านกำลังผูกข้อต่อแขนรับขวัญ นางทองมี สุขเสริม ที่ออกจากโรงพยาบาลและเจอกับเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้น นางทองมี สุขเสริม ดูเหมือนจะอ่อนเพลียเล็กน้อย สภาพจิตใจดีขึ้นบ้างเพราะบ้านใกล้เรือนเคียงมาให้กำลังใจ นางทองมี สุขเสริม เล่าเหตุการณ์กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ตอนช่วงเช้ามีคนเข้ามาในสวน แล้วตนถามว่ามาทำอะไร เขาบอกว่ามาหาแลน ตนก็บอกว่าที่นี่ไม่มี ชายดังกล่าวก็เดินไปแล้วเดินมาขอเข้าห้องน้ำ ขอกินน้ำ ตอนนั้นตนกำลังทุบฝักถั่วเขียว ชายดังกล่าวก็เลยขอซื้อ ตนเลยว่าไม่ขายแต่จะให้เฉยๆ ตนก็ไปหาถุงมาใส่ให้ แต่ก่อนหน้านั้นตนก็ถามนะว่าอยู่บ้านอะไร เขาก็บอกว่าอยู่บ้านสร้างแก้ว แต่พอได้ถั่วชายดังกล่าวก็ออกไปตรงที่มันจอดรถไว้ นาที่ข้างๆติดถนนที่เชื่อมระหว่างบ้านหนองละครกับบ้านหนองแมว สักพักประมาณไม่ถึง 20นาที ชายดังกล่าวก็เอาท่อนไม้มาตีหัวทางด้านหลัง 3ที จนตนได้ถามว่ามาตีทำไม แล้วตนก็หน้ามืดฟุบลง ชายดังกล่าวก็เลยวิ่งไปที่รถ นำกระเป๋าที่วางไว้ข้างๆไปด้วย พอชายดังกล่าวไปตนรู้สึกตัวก็มองไปดูชายดังกล่าวว่าขี่รถไปทางไหนชายดังกล่าวขี่ไปทางบ้านหนองละคร แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเลี้ยวไปทางไหนเพราะตรงนั้นมีห้วย และมีทางออกไปได้หลายทาง จากนั้นตนก็พยายามคลานหนีไปซ่อนตรงที่นาทางทิศใต้ ตนเดินไม่ค่อยถนัดด้วยเพราะตนเป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรงต้องไปนวดทำกายภาพบำบัด จากนั้นโทรหาแฟนแต่แฟนไม่ได้รับสาย โทรหาใครก็ไม่รับ ตนจึงโทรลูกสาวที่ทำงานในสุรินทร์ 2 ครั้งถึงรับ ตนบอกว่าช่วยแม่ด้วยแม่โดนตีหัวแตก

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่นาหรือสวนของ นางทองมี สุขเสริม ซึ่งเป็นจุดเกิดเหตุ ห่างจากหมู่บ้านประมาณเกือบ 2 กิโลเมตร และบริเวณจุดเกิดเหตุนั้นปลอดผู้คน ซึ่งนาง นางทองมี สุขเสริม อยู่ลำพังผู้เดียว จากคำบอกเล่าของ นางน้อย คำสุมาลี อยู่ 51 ปี เป็นน้องสาวของ นางทองมี สุขเสริม (ผู้เสียหาย) และนายคำบอกเล่าของ นายสมศักดิ์ แข็งกล้า อายุ 55 ปี (เขย) นางน้อย คำสุมาลี เล่าว่า ตนได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวของน้องสาวว่าแม่โดนตีที่สวน ตนจึงรีบมาดูแต่ไม่พบ ตนจึงออกตามหาและพยายามเรียกหาอยู่นานจนไปพบว่า นางทองมี สุขเสริม หลบอยู่ตรงต้นไม้ใหญ่ ซึ่งห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร จึงได้โทรเรียก 1669 นำส่งโรงพยาบาลสนม นางน้อย คำสุมาลี (น้องสาว) เล่าต่อว่า ปกติพี่สาวตนจะใส่สร้อยคือ หนัก 2 บาท และเงินจะใส่กระเป๋าไว้ แต่วันเกิดเหตุ พี่สาวเก็บเงินและสร้อยในถุงกระเป๋าคาดเอวเล็กๆ มีเงินอยู่ 5หมื่นบาท ทองหนัก 2 บาทในกระเป๋าคาดเอว แต่กระเป๋าตังค์มีเงินแค่ 400 บาท คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้ว่าพี่สาวตนมีสร้อยทองและเงินติดตัวไปด้วย จึงเข้าไปทุบตีเพื่อหวังทรัพย์สิน พอพี่สาวรู้สึกตัวหลังถูกตีเลยรีบคลานหลบหนี กลัวคนร้ายจะกลับมาอีกรอบหากรู้ว่าเงินในกระเป๋าไม่มี โชคดีที่คนร้ายตีไม่ถูกจุดสำคัญทำให้ถึงแก่ชีวิต

เตือนภัยหากผู้สูงอายุไปที่เปลี่ยวไม่มีคนมากก็ควรระมัดระวัง และไม่ควรพกทรัพย์สินมีค่าไปมากๆ หรือมีทรัพย์สินติดตัวไม่ควรไปไหนมาไหนตามลำพัง ฝากเตือนพี่น้องประชาชนอย่าปล่อยให้ผู้สูงวัยอยู่ตามลำพังหากไกลผู้คน

ภาพ/ข่าว/เรียบเรียง สมศักดิ์ ตระกูลสุข ทีมข่าวสนมนิวส์ / ทีมข่าวสุรินทร์นิวส์

ข่าวสนมนิวส์

Leave a Comment